
ความหมายและที่มาของสำนวน
“กินบ้านผ่านเมือง”
ความหมาย:
สำนวน “กินบ้านผ่านเมือง” มีความหมายหลายนัยขึ้นอยู่กับบริบท ได้แก่:
- (โบราณ) ครองเมือง: ในสมัยโบราณ คำว่า “กินเมือง” หมายถึง การปกครองเมือง หรือการได้เป็นเจ้าเมือง เช่นในวรรณคดีเรื่องราชาธิราช เมื่อกษัตริย์จะปูนบำเหน็จให้ผู้ใดเป็นเจ้าเมืองก็จะใช้คำว่า “ให้ไปกินเมือง” ดังนั้น “กินบ้านผ่านเมือง” ในบริบทนี้จึงหมายถึงการปกครองดูแลบ้านเมือง
- (สำนวน, ภาษาปาก) ตื่นสายมาก: สำนวนนี้ใช้ในเชิงประชดประชันคนที่นอนตื่นสายมาก ๆ เช่น “สายตะวันโด่งแล้ว ยังนอนกินบ้านกินเมืองอยู่ได้”
- (สำนวน, ภาษาปาก) ฉ้อราษฎร์บังหลวง: ในปัจจุบัน สำนวนนี้มักใช้ในความหมายเชิงลบ หมายถึง การคดโกง ฉ้อโกงทรัพย์สินของประเทศชาติ เช่น เจ้าหน้าที่ที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง เรียกได้ว่าเป็นพวกที่กินบ้านกินเมือง
ที่มา:
ที่มาของสำนวน “กินบ้านผ่านเมือง” มาจากคำว่า “กินเมือง” ซึ่งมีความหมายดั้งเดิมคือการปกครองเมือง ดังที่ปรากฏในวรรณคดีไทย เช่น เรื่องราชาธิราช ต่อมาสำนวนนี้ได้ถูกนำมาใช้ในความหมายที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งในเชิงประชดประชันคนขี้เกียจ และในเชิงประณามคนโกงกินบ้านเมือง
สรุป:
สำนวน “กินบ้านผ่านเมือง” เป็นสำนวนที่มีความหมายหลากหลาย แต่โดยทั่วไปแล้วมีความหมายเกี่ยวข้องกับการปกครอง การใช้ชีวิตอย่างสุขสบายโดยไม่ทำประโยชน์ และการฉ้อโกงบ้านเมือง การใช้สำนวนนี้ขึ้นอยู่กับบริบทของสถานการณ์
นอกจากนี้ ฉันยังพบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสำนวนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น “นอนกินบ้านกินเมือง” ซึ่งมีความหมายใกล้เคียงกัน คือ ใช้ประชดประชันคนที่นอนตื่นสายมาก