
ความหมายของสำนวน “น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง”
สำนวน “น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง” มีความหมายว่า พูดมาก แต่ได้เนื้อหาสาระน้อย หรือพูดเยอะแต่ไร้แก่นสาร เปรียบเหมือนกับเวลาที่น้ำท่วมทุ่ง แม้จะมีน้ำมาก แต่ผักบุ้งซึ่งเป็นพืชที่ชอบน้ำกลับมีน้อยโหรงเหรง ไม่สมดุลกับปริมาณน้ำ
สำนวนนี้มักใช้ในสถานการณ์ต่อไปนี้:
- วิจารณ์คนที่พูดมาก พูดนาน แต่จับใจความไม่ได้ เช่น “เขาอธิบายงานตั้งนาน แต่ฟังไปฟังมาก็มีแต่น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง”
- ตำหนิคนที่เขียนหนังสือหรือบทความที่ยืดยาว แต่เนื้อหาไม่กระชับ เช่น “บทความนี้ยาวมาก อ่านแล้วเหนื่อย แต่ก็มีแต่น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง”
- เปรียบเปรยถึงการประชุมหรือการนำเสนอที่ใช้เวลานาน แต่ไม่มีข้อสรุปหรือสาระสำคัญ เช่น “ประชุมกันทั้งวัน แต่ก็เหมือนเดิม น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง ไม่ได้อะไรคืบหน้าเลย”
ที่มาของสำนวน
สำนวนนี้มาจากวิถีชีวิตของคนไทยสมัยก่อนที่ทำการเกษตร ผักบุ้งเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในน้ำ เมื่อน้ำท่วมทุ่งก็ควรจะมีผักบุ้งขึ้นชุกชุม แต่ในความเป็นจริง ผักบุ้งอาจจะไม่ได้มีมากอย่างที่คิด อาจจะขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ เช่น ดิน น้ำ พันธุ์ผักบุ้ง ฯลฯ
คำที่เกี่ยวข้อง
- น้ำท่วมปาก: พูดไม่ออก เพราะเกรงจะมีภัยแก่ตนหรือผู้อื่น
- พูดเป็นต่อยหอย: พูดฉอด ๆ ไม่หยุด
- พูดมากปากเสีย: พูดจาไม่ไพเราะและก่อให้เกิดผลเสีย
- พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง: พูดไปไม่มีประโยชน์ นิ่งไว้จะดีกว่า
ตัวอย่างการใช้
- “เธออย่าไปฟังเขาพูดเลย มีแต่น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง”
- “การนำเสนอของเขาน่าเบื่อมาก พูดตั้งนานแต่ก็มีแต่น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง”
- “ฉันไม่ชอบอ่านนิยายของนักเขียนคนนี้เลย เขียนยาวแต่เนื้อหามีแต่น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง”
สรุป
สำนวน “น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง” เป็นสำนวนไทยที่มีความหมายลึกซึ้ง สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตและความคิดของคนไทย ใช้เปรียบเทียบการพูดหรือการเขียนที่มากเกินความจำเป็น แต่ไร้สาระสำคัญ ซึ่งยังคงใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน