ความหมายและที่มาของสำนวน
“ขนทรายเข้าวัด”
สำนวน “ขนทรายเข้าวัด” เป็นสำนวนไทยที่คุ้นเคย มีความหมายทั้งในเชิงรูปธรรมและนามธรรม ดังนี้
ความหมายเชิงรูปธรรม (ความหมายโดยตรง):
หมายถึง การทำบุญกุศลโดยการนำหรือขนทรายไปก่อสร้างสิ่งต่างๆ ในวัด เช่น การก่อพระเจดีย์ทราย การถมที่ หรือการปรับปรุงพื้นที่วัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นประเพณีที่นิยมทำกันมาแต่โบราณ
ความหมายเชิงนามธรรม (ความหมายโดยปริยาย/สำนวน):
หมายถึง การทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม การช่วยเหลือสังคม หรือการทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน เป็นการเสียสละแรงกาย แรงใจ หรือทรัพย์สินส่วนตน เพื่อประโยชน์ของผู้อื่นหรือส่วนรวม
ที่มาของสำนวน:
ที่มาของสำนวน “ขนทรายเข้าวัด” มีหลายแนวคิด ดังนี้
- ประเพณีสงกรานต์: ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีประเพณีการก่อพระเจดีย์ทราย ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นการสร้างบุญกุศล และเป็นการทดแทนทรายที่ติดเท้าออกจากวัดไปในระหว่างปี บ้างก็ว่าเป็นการจำลองเขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของจักรวาลตามความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์-ฮินดู การขนทรายเข้าวัดเพื่อก่อเจดีย์ทรายจึงเป็นที่มาของสำนวน
- การทำนุบำรุงวัด: ในอดีต การสร้างวัดหรือการบูรณะวัดต้องใช้ทรายเป็นจำนวนมาก การที่ชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจกันขนทรายเข้าวัด จึงเป็นการช่วยเหลือวัดและเป็นการทำบุญไปในตัว การกระทำนี้จึงกลายมาเป็นสำนวนที่สื่อถึงการทำประโยชน์ให้ส่วนรวม
- กุศโลบายของพระสงฆ์: การขนทรายเข้าวัดอาจเป็นกุศโลบายของพระสงฆ์ เพื่อให้ชาวบ้านได้ร่วมกันทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แก่วัด และเป็นการสร้างความสามัคคีในชุมชน
ความสำคัญของสำนวน:
สำนวน “ขนทรายเข้าวัด” สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมของคนไทยในเรื่องของการทำบุญ การช่วยเหลือผู้อื่น และการทำประโยชน์ให้ส่วนรวม เป็นการสอนให้คนรู้จักเสียสละ และมีจิตสำนึกสาธารณะ
ตัวอย่างการใช้สำนวน:
- “โครงการนี้เป็นการขนทรายเข้าวัดอย่างแท้จริง เพราะทุกคนต่างร่วมแรงร่วมใจกันทำงานโดยไม่หวังผลตอบแทน”
- “การที่เขาบริจาคเงินจำนวนมากให้โรงพยาบาล ก็ถือเป็นการขนทรายเข้าวัดอีกทางหนึ่ง”
สรุป:
สำนวน “ขนทรายเข้าวัด” มีความหมายทั้งในเชิงรูปธรรมและนามธรรม โดยมีความหมายหลักคือการทำประโยชน์ให้ส่วนรวม โดยมีที่มาจากประเพณีสงกรานต์ การทำนุบำรุงวัด และกุศโลบายของพระสงฆ์ สำนวนนี้สะท้อนค่านิยมของคนไทยในเรื่องของการทำบุญ การช่วยเหลือผู้อื่น และการทำประโยชน์ให้ส่วนรวม