ความหมายและที่มาของสำนวน “กินนอกกินใน”
สำนวน “กินนอกกินใน” เป็นสำนวนไทยที่ใช้ในบริบทของการแสวงหาผลประโยชน์หรือกำไรทั้งทางเปิดเผยและทางลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการค้าขายหรือการทำธุรกิจ
ความหมายตามพจนานุกรมและแหล่งข้อมูลต่างๆ:
- พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔: ไม่ได้ให้ความหมายของ “กินนอกกินใน” โดยตรง แต่มีคำใกล้เคียงคือ “กินนอก” ซึ่งหมายถึง “เอากำไรในการซื้อขาย นอกจากที่ตกลงกันไว้” และ “กินใน” หมายถึง “รับผลประโยชน์ส่วนตัวโดยมิชอบ” เมื่อรวมกันจึงหมายถึงการเอากำไรทั้งทางเปิดเผยและทางลับ
- วิกิพจนานุกรม: อธิบายว่า “กินนอกกินใน” หมายถึง “เอากำไรในการซื้อขาย ทั้งในราคาและนอกราคาที่กำหนด”
- แหล่งข้อมูลอื่นๆ: เน้นย้ำถึงการแสวงหาผลประโยชน์ทั้งสองทาง เช่น การบวกราคาขายเกินจริง (กินนอก) และการรับเงินใต้โต๊ะ (กินใน)
ที่มาของสำนวน:
ที่มาของสำนวน “กินนอกกินใน” มาจากพฤติกรรมการค้าขายที่ไม่ซื่อตรง โดยผู้ขายอาจตั้งราคาสินค้าสูงกว่าราคาที่ควรจะเป็น (กินนอก) และในขณะเดียวกันก็อาจรับผลประโยชน์ส่วนตัวจากผู้ซื้อ เช่น รับเงินสินบนหรือเงินใต้โต๊ะ (กินใน) เพื่อแลกกับความได้เปรียบในการซื้อขาย
ลักษณะการใช้สำนวน:
- มักใช้ในบริบทเชิงลบ เกี่ยวกับการทุจริต การเอารัดเอาเปรียบ หรือการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ
- มักใช้ในวงการค้าขาย ธุรกิจ หรือการประมูล
- อาจใช้ในบริบททั่วไปเพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมที่ไม่ซื่อตรง
ตัวอย่างการใช้สำนวน:
- “พ่อค้าคนนั้นถูกกล่าวหาว่ากินนอกกินในในการประมูลที่ดินของรัฐ”
- “การที่บริษัทนี้ได้งานใหญ่ไป อาจเป็นเพราะมีการกินนอกกินในกับเจ้าหน้าที่”
- “เขาทำธุรกิจแบบกินนอกกินใน ทำให้ไม่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า”
ความแตกต่างจากสำนวนอื่น:
- กินตามน้ำ: หมายถึง การรับผลประโยชน์โดยที่ตนเองไม่ได้เรียกร้อง แต่ได้รับมาเนื่องจากสถานการณ์หรือโอกาสที่เอื้ออำนวย
- กินบนเรือนขี้บนหลังคา: หมายถึง การเนรคุณ ผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือแล้วกลับทำร้ายผู้มีพระคุณ
สรุป:
สำนวน “กินนอกกินใน” สื่อถึงการแสวงหาผลประโยชน์หรือกำไรทั้งทางเปิดเผยและทางลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการค้าขายหรือการทำธุรกิจ มักใช้ในบริบทเชิงลบเกี่ยวกับการทุจริตและการเอารัดเอาเปรียบ