ความหมายและที่มาของสำนวน “กระต่ายสามขา”
สำนวน “กระต่ายสามขา” หมายถึง การยืนกรานปฏิเสธเสียงแข็ง พูดอย่างมั่นใจในสิ่งที่ตนพูดหรือให้การ แม้ว่าสิ่งที่พูดนั้นจะไม่เป็นความจริง หรือไม่มีหลักฐานสนับสนุน หรือขัดแย้งกับความเป็นจริงอย่างชัดเจนก็ตาม
พูดง่ายๆ คือ การยืนยันหัวชนฝาในสิ่งที่ผิด หรือ โกหกอย่างมั่นใจจนตัวเองเกือบจะเชื่อ
ที่มาของสำนวนนี้:
มาจากนิทานพื้นบ้านเรื่องหนึ่ง เล่าว่า มีนายพรานคนหนึ่งเข้าไปล่าสัตว์ในป่าและยิงกระต่ายได้ แต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ กลับพบว่ากระต่ายตัวนั้นมีเพียงสามขา นายพรานรู้สึกประหลาดใจมาก จึงนำกระต่ายสามขาไปอวดเพื่อนบ้าน แต่ไม่มีใครเชื่อ เพื่อนบ้านต่างพากันหัวเราะเยาะและบอกว่ากระต่ายที่ไหนก็มีสี่ขา นายพรานพยายามยืนยันว่าตนเห็นกระต่ายสามขาจริงๆ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ สุดท้ายนายพรานจึงท้าให้ไปดูรอยเท้ากระต่ายในป่า แต่เมื่อไปถึง รอยเท้ากระต่ายที่เห็นกลับเป็นรอยเท้าสี่ขาตามปกติ นายพรานจึงหน้าแตกและถูกเพื่อนบ้านเยาะเย้ยหนักกว่าเดิม
จากนิทานเรื่องนี้ คำว่า “กระต่ายสามขา” จึงกลายมาเป็นสำนวน เปรียบเทียบกับการยืนยันในสิ่งที่ผิดหรือไม่เป็นความจริงอย่างหน้าไม่อาย
ตัวอย่างการใช้:
- “เขาให้การกับตำรวจว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่หลักฐานทั้งหมดชี้ชัดว่าเขาเป็นคนร้าย เขาก็ยังยืนยันเป็นกระต่ายสามขา”
- “เธอโกหกว่าไม่ได้ไปงานเลี้ยงเมื่อคืน แต่มีคนเห็นเธออยู่ที่นั่น เธอยังจะยืนกระต่ายสามขาอีกหรือ”
- “ถึงแม้จะถูกจับได้คาหนังคาเขา เขาก็ยังยืนกระต่ายสามขาว่าไม่ได้ขโมยของ”
สำนวนที่คล้ายคลึงกัน:
- กระต่ายขาเดียว: มีความหมายเหมือนกับกระต่ายสามขา คือ ยืนกรานปฏิเสธหัวชนฝา
- หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอมรับ: หมายถึง ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม
- พูดเป็นต่อยหอย: หมายถึง พูดฉอดๆ พูดไม่หยุด พูดโดยไม่คิด
- สีซอให้ควายฟัง: หมายถึง พูดหรือแนะนำอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์
สรุป:
“กระต่ายสามขา” เป็นสำนวนที่ใช้เปรียบเทียบคนที่ยืนกรานปฏิเสธในสิ่งที่ผิดหรือไม่เป็นความจริงอย่างมั่นใจ แม้ว่าจะมีหลักฐานชัดเจนว่าสิ่งที่พูดนั้นไม่เป็นความจริงก็ตาม สำนวนนี้มีที่มาจากนิทานพื้นบ้านเรื่องนายพรานกับกระต่ายสามขานั่นเอง