![เสือติดปีก](https://xn--12c4bmrju6hc9d9j.com/wp-content/uploads/2024/12/Winged-Tiger1.jpg)
ความหมายและที่มาของสำนวน “เสือติดปีก”
สำนวน “เสือติดปีก” มีความหมายว่า คนที่เก่งกาจอยู่แล้ว หากมีอำนาจหรือได้รับการส่งเสริมสนับสนุนก็จะยิ่งมีพลังอำนาจมากขึ้นไปอีก หรือเปรียบเสมือนคนที่มีความสามารถมากอยู่แล้ว เมื่อได้รับโอกาสหรือการสนับสนุนเพิ่มเติม ก็จะยิ่งประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
ที่มาของสำนวนนี้ มาจากการเปรียบเทียบกับ “เสือ” ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีพละกำลัง แข็งแกร่ง และน่าเกรงขามอยู่แล้ว เมื่อ “ติดปีก” ก็ยิ่งเพิ่มความน่ากลัวและทรงพลังมากขึ้น สามารถไปไหนมาไหนได้อย่างรวดเร็ว เปรียบเสมือนกับคนเก่งที่ได้รับการสนับสนุน ก็จะยิ่งสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น
การใช้สำนวน “เสือติดปีก” มักใช้ในสองบริบทหลักๆ คือ:
- ชื่นชม: ใช้เพื่อชื่นชมบุคคลที่มีความสามารถอยู่แล้ว และเมื่อได้รับโอกาสหรือการสนับสนุน ก็จะยิ่งประสบความสำเร็จมากขึ้น เช่น “นักธุรกิจคนนั้นเก่งมากอยู่แล้ว พอได้ทุนสนับสนุนจากรัฐบาลก็เหมือนเสือติดปีก ขยายธุรกิจไปต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว”
- เตือนภัย: ใช้เพื่อเตือนถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากคนที่เก่งกาจอยู่แล้ว แต่หากมีอำนาจมากเกินไป อาจใช้อำนาจนั้นในทางที่ผิด เช่น “นายคนนี้เป็นคนฉลาดแกมโกง ถ้าปล่อยให้มีอำนาจมากไปจะกลายเป็นเสือติดปีก ยากที่จะควบคุม”
![เสือติดปีก](https://xn--12c4bmrju6hc9d9j.com/wp-content/uploads/2024/12/Winged-Tiger2.jpg)
ตัวอย่างการใช้สำนวน “เสือติดปีก”:
- “บริษัทนั้นกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว พอควบรวมกิจการกับบริษัทคู่แข่งได้ ก็ยิ่งเหมือนเสือติดปีก กลายเป็นผู้นำตลาดในทันที”
- “นักกีฬาคนนี้มีพรสวรรค์อยู่แล้ว พอได้โค้ชเก่งๆ มาฝึกสอน ก็ยิ่งพัฒนาฝีมือไปไกล เหมือนเสือติดปีก“
- “ระวังคนนั้นให้ดี ถึงแม้ดูภายนอกจะไม่มีพิษมีภัย แต่ถ้าเขาได้อำนาจเมื่อไหร่ จะกลายเป็นเสือติดปีกที่น่ากลัวมาก”
โดยสรุปแล้ว “เสือติดปีก” เป็นสำนวนที่ใช้เปรียบเทียบถึงคนที่เก่งกาจอยู่แล้ว และเมื่อได้รับการส่งเสริมหรือมีอำนาจมากขึ้น ก็จะยิ่งมีพลังและความสามารถมากขึ้นไปอีก สามารถใช้ได้ทั้งในแง่ชื่นชมและเตือนภัย ขึ้นอยู่กับบริบทที่ใช้