ความหมายและที่มาของสำนวน “เหยียบเรือสองแคม”
สำนวน “เหยียบเรือสองแคม” หมายถึง การทำทีเข้าด้วยทั้ง 2 ฝ่าย มุ่งหวังประโยชน์จากทั้ง 2 ฝ่าย โดยไม่เลือกเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างชัดเจน มักใช้ในเชิงตำหนิหรือประณามผู้ที่มีพฤติกรรมไม่จริงใจ โลเล ไม่กล้าตัดสินใจ หรือต้องการผลประโยชน์จากทั้งสองฝ่ายโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง
ที่มาของสำนวน:
ที่มาของสำนวนนี้มาจากการเปรียบเทียบกับ การพยายามยืนทรงตัวโดยเอาเท้าเหยียบบนเรือสองลำที่จอดขนานกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก และมีความเสี่ยงสูงที่จะตกน้ำ เพราะเรือทั้งสองลำอาจเคลื่อนออกจากกันได้ตลอดเวลา
การเหยียบเรือสองแคม จึงเปรียบเสมือนการกระทำที่เสี่ยงอันตราย ไม่มั่นคง และมีโอกาสล้มเหลวสูง หากเลือกที่จะเข้ากับทั้งสองฝ่ายโดยไม่ตัดสินใจเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างชัดเจน สุดท้ายแล้วอาจไม่ได้รับความไว้วางใจจากทั้งสองฝ่าย และอาจสูญเสียผลประโยชน์หรือมิตรภาพจากทั้งสองฝ่ายไปในที่สุด
ตัวอย่างการใช้:
- “นักการเมืองคนนั้นชอบเหยียบเรือสองแคม พูดกับฝ่ายรัฐบาลก็อย่างหนึ่ง พูดกับฝ่ายค้านก็อีกอย่างหนึ่ง”
- “เธออย่าไปไว้ใจเขามากนะ เขาชอบทำตัวเหยียบเรือสองแคม หวังผลประโยชน์จากทั้งสองฝ่าย”
- “ในสถานการณ์ความขัดแย้งนี้ เราไม่ควรเหยียบเรือสองแคม แต่ต้องเลือกข้างให้ชัดเจน”
- “บริษัทนั้นถูกกล่าวหาว่าเหยียบเรือสองแคม โดยทำธุรกิจกับทั้งสองประเทศที่กำลังมีข้อพิพาทกัน”
สรุป:
สำนวน “เหยียบเรือสองแคม” เป็นสำนวนที่มีความหมายเชิงลบ สื่อถึงความไม่จริงใจ โลเล ไม่กล้าตัดสินใจ และหวังผลประโยชน์จากทั้งสองฝ่าย โดยเปรียบเทียบกับการพยายามยืนบนเรือสองลำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยากและมีความเสี่ยงสูง สำนวนนี้มักใช้เพื่อตำหนิหรือวิพากษ์วิจารณ์ผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าว และเตือนให้ระมัดระวังการกระทำที่อาจนำไปสู่ความล้มเหลวหรือสูญเสียความไว้วางใจ