ความหมายของสำนวน “หนามยอกเอาหนามบ่ง”
สำนวน “หนามยอกเอาหนามบ่ง” หมายถึง การโต้ตอบหรือแก้แค้นด้วยวิธีการเดียวกันหรือในลักษณะเดียวกันกับที่ตนเองถูกกระทำ เปรียบเสมือนการเอาหนามออก โดยใช้อีกหนามหนึ่งมาบ่งออก
อธิบายเพิ่มเติม:
- หนามยอก: หมายถึง หนามตำหรือแทงเข้าไปในเนื้อ ทำให้เจ็บปวด
- เอาหนามบ่ง: หมายถึง การใช้ปลายแหลมของอีกหนามหนึ่งเขี่ยหรือสะกิดเอาหนามที่ตำอยู่ออก
ใช้ในสถานการณ์:
- การแก้แค้น: เมื่อถูกกระทำอย่างใด ก็ตอบโต้กลับไปด้วยวิธีเดียวกัน
- การแก้ปัญหา: ใช้วิธีการที่คล้ายคลึงกับต้นเหตุของปัญหาในการแก้ไข
- การตอบโต้: โต้เถียงหรือโต้แย้งด้วยคำพูดหรือการกระทำที่คล้ายคลึงกับคู่กรณี
ตัวอย่าง:
- “เขาด่าฉัน ฉันก็ด่าเขากลับ นี่แหละหนามยอกเอาหนามบ่ง”
- “เธอโกงฉัน ฉันก็จะโกงเธอบ้าง ให้มันรู้กันไปว่าหนามยอกเอาหนามบ่งเป็นอย่างไร”
- “รัฐบาลขึ้นภาษี ประชาชนก็ประท้วง นี่คือการใช้หลักหนามยอกเอาหนามบ่ง”
ที่มาของสำนวน “หนามยอกเอาหนามบ่ง”
ที่มาของสำนวนนี้มาจากวิถีชีวิตของคนไทยในสมัยก่อนที่ต้องเดินป่าหรือทำไร่ทำนา ซึ่งมีโอกาสที่จะถูกหนามตำได้ง่าย เนื่องจากในสมัยนั้นยังไม่มีเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย การเอาหนามออกจึงต้องใช้วิธีตามธรรมชาติ
วิธีการเอาหนามออกโดยใช้หนามด้วยกันเองนั้น ทำได้โดยหักหนามจากต้นไม้ชนิดเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน (เพราะมักจะมีขนาดและความแข็งใกล้เคียงกัน) มาทำให้ปลายแหลม จากนั้นจึงค่อยๆ ใช้ปลายหนามนั้นเขี่ยหรือสะกิดเอาหนามที่ตำอยู่ออกอย่างระมัดระวัง
การกระทำนี้จึงกลายมาเป็นที่มาของสำนวน “หนามยอกเอาหนามบ่ง” ที่ใช้เปรียบเทียบการตอบโต้หรือการแก้ปัญหาด้วยวิธีการเดียวกันหรือคล้ายคลึงกันกับที่ตนเองถูกกระทำหรือกับต้นเหตุของปัญหานั่นเอง
ข้อสังเกต:
สำนวนนี้ในปัจจุบันอาจถูกมองในแง่ลบได้ เพราะเน้นการแก้แค้น อย่างไรก็ตาม ในอีกแง่หนึ่งก็สะท้อนถึงความต้องการความยุติธรรม และการไม่ยอมถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว
สรุป: สำนวน “หนามยอกเอาหนามบ่ง” เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตและความคิดของคนไทยในอดีต ที่รู้จักการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยใช้วิธีธรรมชาติ และยังคงเป็นสำนวนที่ใช้กันอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน