ความหมายของสำนวน “ปิดทองหลังพระ”
สำนวน “ปิดทองหลังพระ” มีความหมายว่า การทำความดีโดยไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้ใครรู้ หรือทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทนหรือคำยกย่องสรรเสริญ เปรียบเสมือนการปิดทองที่องค์พระพุทธรูป แม้จะปิดทองที่ด้านหลังซึ่งไม่มีใครเห็น แต่ก็ถือว่าเป็นการทำความดี บำรุงพระพุทธศาสนา
สำนวนนี้มักใช้ในสถานการณ์ต่อไปนี้:
- การทำบุญหรือการบริจาคโดยไม่เปิดเผยตัวตน: เช่น การบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้โดยไม่ประสงค์ออกนาม
- การช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน: เช่น การช่วยคนตกทุกข์ได้ยากโดยไม่หวังคำขอบคุณ
- การทำงานหรือทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่โดยไม่หวังชื่อเสียง: เช่น การเป็นครูที่ทุ่มเทสอนลูกศิษย์โดยไม่หวังคำยกย่อง
ที่มาของสำนวน:
มาจากประเพณีการปิดทองพระพุทธรูปของไทย ซึ่งเป็นการแสดงความเคารพบูชาต่อพระพุทธเจ้า การปิดทองที่ด้านหลังขององค์พระซึ่งไม่มีใครเห็น เป็นการแสดงถึงความศรัทธาที่แท้จริง โดยไม่หวังให้ใครมาชื่นชม
ตัวอย่างการใช้:
- “เขาบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอยู่เสมอ แต่ไม่เคยเปิดเผยตัวตน เขาเป็นคนที่ชอบปิดทองหลังพระ”
- “คุณหมอคนนั้นรักษาคนไข้ด้วยความเอาใจใส่ โดยไม่หวังชื่อเสียงหรือเงินทอง เขาเป็นคนที่ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง”
- “การทำงานเพื่อสังคมโดยไม่หวังผลตอบแทน ก็เหมือนกับการปิดทองหลังพระ”
คำที่เกี่ยวข้อง:
- ทำดีได้ดี: การทำความดีจะส่งผลดีต่อตนเอง
- ทำบุญหวังผล: การทำบุญโดยหวังผลตอบแทน
- สร้างภาพ: การพยายามทำให้ผู้อื่นเห็นว่าตนเองเป็นคนดี แต่ความจริงแล้วไม่ใช่
ความหมายแฝง:
สำนวนนี้แฝงความหมายถึงการทำความดีด้วยความบริสุทธิ์ใจ ความเสียสละ และความไม่เห็นแก่ตัว
สรุป:
“ปิดทองหลังพระ” เป็นสำนวนไทยที่ยกย่องการทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทนหรือคำยกย่องสรรเสริญ เป็นสำนวนที่สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของการทำความดีด้วยความบริสุทธิ์ใจ