ความหมายของสำนวน “ปากว่าตาขยิบ”
สำนวน “ปากว่าตาขยิบ” มีความหมายว่า พูดอย่างหนึ่ง แต่การกระทำหรือสีหน้าท่าทางกลับตรงข้ามหรือไม่สอดคล้องกับคำพูด เป็นการแสดงออกถึงความไม่จริงใจ เสแสร้ง หรือมีเลศนัย มักใช้ในเชิงตำหนิ
สำนวนนี้มักใช้ในสถานการณ์ต่อไปนี้:
- การพูดจาประจบประแจง แต่ในใจไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น: เช่น “เขาชมว่าเธอแต่งตัวสวย แต่ดูแววตาเขาสิ ปากว่าตาขยิบชัดๆ”
- การสัญญาว่าจะทำอะไรบางอย่าง แต่จริงๆ แล้วไม่อยากทำหรือไม่ตั้งใจจะทำ: เช่น “เขาบอกว่าจะช่วยงานฉัน แต่ดูท่าทางแล้ว ปากว่าตาขยิบ คงไม่มาหรอก”
- การแสดงความเห็นอกเห็นใจ แต่จริงๆ แล้วไม่ได้รู้สึกอะไร: เช่น “เธอทำเป็นเสียใจที่เขาตกงาน แต่ฉันเห็นเธอแอบยิ้มมุมปาก นี่มันปากว่าตาขยิบ”
- การพูดจาโกหกหรือหลอกลวง: เช่น “เขาบอกว่ารักฉัน แต่กลับไปมีคนอื่น แบบนี้มันปากว่าตาขยิบ”
ที่มาของสำนวน:
สำนวนนี้มาจากการสังเกตพฤติกรรมของคนที่ไม่จริงใจ ซึ่งมักจะพูดอย่างหนึ่ง แต่สีหน้า ท่าทาง หรือการกระทำกลับแสดงออกในทางตรงกันข้าม การ “ขยิบตา” เป็นการส่งสัญญาณหรือส่งซิก มักใช้ในทางที่ไม่ดีหรือมีความลับแอบแฝง
ตัวอย่างการใช้:
- “อย่าไปเชื่อคำพูดของคนนั้นเลย ปากว่าตาขยิบ ไว้ใจไม่ได้หรอก”
- “เขาสัญญาว่าจะคืนเงินฉัน แต่ดูท่าทางแล้ว ปากว่าตาขยิบ คงไม่ได้คืนง่ายๆ”
- “เธอทำเป็นเสียใจที่ฉันสอบตก แต่ฉันเห็นแววตาเธอแล้ว ปากว่าตาขยิบชัดๆ”
คำที่เกี่ยวข้อง:
- หน้าไหว้หลังหลอก: ต่อหน้าทำดี ลับหลังคิดร้าย
- ปากหวานก้นเปรี้ยว: พูดจาไพเราะอ่อนหวาน แต่ไม่จริงใจ
- หน้าเนื้อใจเสือ: ภายนอกดูเป็นคนดีมีเมตตา แต่จิตใจโหดร้าย
- ตีสองหน้า: กลับกลอก ไม่แน่นอน
ความหมายแฝง:
สำนวนนี้แฝงความหมายถึงการวิจารณ์คนที่ไม่มีความจริงใจ เสแสร้ง หลอกลวง และไว้ใจไม่ได้
สรุป:
“ปากว่าตาขยิบ” เป็นสำนวนไทยที่ใช้ตำหนิคนที่พูดอย่างหนึ่งแต่การกระทำหรือสีหน้าท่าทางกลับไม่ตรงกับคำพูด เป็นการแสดงออกถึงความไม่จริงใจและเสแสร้ง