ความหมายของสำนวน “เช้าชาม เย็นชาม”
ความหมายโดยตรง
สำนวน “เช้าชาม เย็นชาม” หมายถึง การทำงานหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเฉื่อยชา ไม่กระตือรือร้น ทำเพียงแค่ให้เสร็จไปวัน ๆ โดยไม่มีความกระตือรือร้นหรือความตั้งใจที่จะทำให้งานออกมาดีที่สุด
ที่มาของสำนวน
สันนิษฐานว่าสำนวนนี้มาจากพฤติกรรมการกินข้าวของคนในสมัยก่อน ที่มักจะกินข้าวแค่เช้ากับเย็น โดยเฉพาะในชนบทที่ผู้คนต้องทำงานหนัก จึงกินข้าวแค่วันละ 2 มื้อ ต่อมาจึงนำมาเปรียบเปรยกับคนที่ทำงานแบบขอไปที ไม่ได้มีความกระตือรือร้นในการทำงาน เหมือนกับคนที่กินข้าวไปวันๆ เพียงเพื่อประทังชีวิต
ลักษณะของคนที่ถูกเปรียบว่า “เช้าชาม เย็นชาม”
- ทำงานแบบขอไปที ไม่ได้ใส่ใจในรายละเอียดของงาน
- ไม่มีความกระตือรือร้นในการทำงาน ขาดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
- ไม่พยายามพัฒนาตนเอง หรือเพิ่มพูนทักษะในการทำงาน
- มักจะทำงานตามคำสั่งเท่านั้น ไม่มีความคิดเป็นของตนเอง
- ไม่สนใจผลลัพธ์ของงาน ขอแค่ทำงานเสร็จก็พอ
การใช้งานในชีวิตประจำวัน
สำนวนนี้มักใช้ในการวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของคนที่ไม่ขยันขันแข็งหรือไม่ตั้งใจในการทำงาน ตัวอย่างเช่น:
- นายจ้างอาจบอกว่า “พนักงานคนนี้ทำงานแบบเช้าชาม เย็นชาม ไม่ได้ส่งเสริมให้บริษัทเติบโตได้เลย”
- หรือในบริบทของการเรียน “นักเรียนบางคนเรียนแบบเช้าชาม เย็นชาม ไม่ได้ตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อเพิ่มพูนความรู้”
ข้อคิดจากสำนวน
การใช้ชีวิตหรือทำงานแบบ “เช้าชาม เย็นชาม” อาจนำไปสู่การขาดโอกาสในการพัฒนาตนเองและการประสบความสำเร็จในอนาคต ดังนั้น ควรพยายามทำทุกอย่างด้วยความกระตือรือร้นและความตั้งใจเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพ
การทำงานอย่างตั้งใจและมุ่งมั่นไม่เพียงทำให้งานเสร็จเร็วขึ้น แต่ยังสร้างความพึงพอใจและความภาคภูมิใจในตนเองอีกด้วย