การเป็นหวัดบ่อยๆ อาจเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ซึ่งส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และติดเชื้อไวรัสหวัดได้ง่าย ลองสำรวจตัวเองดูว่ามีพฤติกรรม หรืออยู่ในสภาวะใด ที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เป็นหวัดบ่อย ดังนี้
ปัจจัยภายใน
- ภูมิคุ้มกันต่ำ: อาจเกิดจาก การพักผ่อนไม่เพียงพอ การขาดสารอาหาร ความเครียด โรคประจำตัว หรือการใช้ยาบางชนิด ที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน
- พันธุกรรม: บางคนอาจมีพันธุกรรมที่ทำให้ มีแนวโน้ม ที่จะเป็นหวัดง่ายกว่าคนอื่น
- โรคภูมิแพ้: ผู้ที่มีโรคภูมิแพ้ เช่น ภูมิแพ้ฝุ่น ละอองเกสร มักมีอาการ คัดจมูก น้ำมูกไหล ซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นหวัด
- อายุ: เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ มักมีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าวัยอื่น จึงมีโอกาสเป็นหวัดบ่อยกว่า
ปัจจัยภายนอก
- สภาพแวดล้อม: การอยู่ในสถานที่แออัด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เช่น ห้องเรียน สำนักงาน รถโดยสารสาธารณะ เพิ่มโอกาสในการสัมผัสเชื้อไวรัส
- ฤดูกาล: ช่วงฤดูฝน และฤดูหนาว อากาศเย็น และชื้น เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส และทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง
- การสัมผัสเชื้อ: การสัมผัสกับผู้ป่วยหวัด เช่น การสัมผัสสารคัดหลั่ง การใช้สิ่งของร่วมกัน เพิ่มโอกาสในการติดเชื้อ
- สุขอนามัย: การไม่ล้างมือบ่อยๆ การสัมผัสใบหน้า ตา จมูก ปาก ด้วยมือที่ไม่สะอาด เป็นช่องทางให้เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย
วิธีป้องกันไข้หวัด
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- รักษาสุขอนามัย: ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า
- หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด: โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของโรคหวัด
- สวมหน้ากากอนามัย: เมื่อต้องอยู่ในสถานที่แออัด หรือใกล้ชิดผู้ป่วย
- รักษาโรคประจำตัว: เช่น โรคภูมิแพ้ ให้หายขาด หรือควบคุมอาการ
หากเป็นหวัดบ่อย และมีอาการรุนแรง หรือเป็นเวลานาน ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อหาสาเหตุ และรับการรักษาที่ถูกต้อง
