กาลครั้งหนึ่งในป่ากว้างใหญ่ หมูเด้ง ฮิปโปโปเตมัสน้อยที่มีฝันใหญ่ อยากจะเป็นดาราที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก หลังจากที่เขากลายเป็นดาราดังในป่าแล้ว หมูเด้งก็เริ่มคิดถึงการโกอินเตอร์ เขาอยากให้สัตว์ในป่าทั่วโลกได้รู้จักและชื่นชมเขา
วันหนึ่ง หมูเด้งได้รับจดหมายเชิญให้ไปแสดงในงานเทศกาลสัตว์นานาชาติ ซึ่งจะมีสัตว์จากทุกมุมโลกมาร่วมงาน เขาตื่นเต้นมากและเริ่มเตรียมตัวอย่างตั้งใจเพื่อให้การแสดงของเขาโดดเด่นที่สุด
เมื่อหมูเด้งมาถึงงานเทศกาล เขาได้พบกับสัตว์ต่างชาติที่มีความสามารถหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเสือจากแอฟริกาที่เต้นรำเก่งยิ่งกว่าใคร ๆ นกยูงจากอินเดียที่มีขนสวยงามดึงดูดทุกสายตา และแมวน้ำจากขั้วโลกเหนือที่สามารถเล่นกายกรรมในน้ำได้อย่างคล่องแคล่ว หมูเด้งรู้สึกตื่นตาตื่นใจ แต่ก็เริ่มกังวลว่าโชว์ของเขาจะโดดเด่นท่ามกลางเหล่าสัตว์มากความสามารถนี้ได้หรือไม่
ในวันแสดง หมูเด้งเตรียมพร้อมและคิดจะทำการแสดงแบบเดิมที่เขาเคยทำในป่า แต่เมื่อขึ้นเวทีและเห็นผู้ชมจากทั่วโลก เขาก็เริ่มประหม่า และเสียงร้องทุ้มของเขาก็ดูจะไม่น่าสนใจเท่าเสียงอันไพเราะของสัตว์อื่น ๆ หมูเด้งรู้สึกท้อใจและเกือบจะล้มเลิก แต่ทันใดนั้น เขาก็หันไปเห็นป้ายกำลังใจที่เพื่อน ๆ จากป่าเขียนมาส่งถึงเขา
“หมูเด้ง สู้ ๆ! เป็นตัวของตัวเองนะ!” ข้อความสั้น ๆ นี้ทำให้หมูเด้งนึกถึงคำแนะนำของปู่ฮิปโปที่เคยบอกให้เขาภูมิใจในตัวเอง และแสดงในสิ่งที่เขาถนัดที่สุด
หมูเด้งสูดลมหายใจลึก ๆ และตัดสินใจทำการแสดงด้วยใจจริง เขาใช้เสียงทุ้มก้องของเขาร้องเพลงอย่างมั่นใจและเติมความสนุกลงในโชว์โดยกระโดดลงน้ำอย่างมีพลัง ทุกตัวต่างทึ่งกับพลังและความเป็นตัวของตัวเองของหมูเด้ง แม้เขาจะไม่เหมือนใคร แต่การแสดงที่เต็มไปด้วยความจริงใจทำให้ผู้ชมประทับใจและปรบมือให้หมูเด้งดังสนั่น
หลังจากจบการแสดง หมูเด้งได้รับคำชื่นชมจากสัตว์ต่างชาติหลายตัวว่า “โชว์ของเธอมีเอกลักษณ์และเป็นตัวเองที่สุด!” หมูเด้งยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ เขารู้ว่าเขาไม่ต้องพยายามเลียนแบบใคร แต่การเป็นตัวเองคือสิ่งที่ทำให้เขาโดดเด่นจริง ๆ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า:
เมื่อเราต้องการแสดงความสามารถต่อหน้าผู้อื่น การเป็นตัวของตัวเองคือสิ่งที่ทำให้เรามีเอกลักษณ์และมีคุณค่า การพยายามเลียนแบบคนอื่นอาจทำให้เราไม่โดดเด่น แต่ความจริงใจและความมั่นใจในตัวเองต่างหากที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ