เชื่อว่าส้มจะต้องเป็นผลไม้ที่น้องๆ หลายคนโปรดปรานไม่น้อยเป็นแน่ สำหรับส้มนั้นมีสารอาหารมากมายแต่ที่โดดเด่นมากที่สุดก็คือ วิตามินซีนั่นเอง นอกจากนี้แล้ว ส้มยังมีทั้งวิตามินเอ บี แคลเซียม ใยอาหาร โพแทสเซียม ฟอสฟอรัสและเหล็กอีกด้วย ประโยชน์ของส้มมีให้กล่าวถึงเหลือเฟือเลยทีเดียว ซึ่งได้แก่..
1.สร้างความสดชื่นให้แก่ร่างกาย ช่วยลดทอนความเครียดและป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
2.ล้างพิษให้แก่ร่างกายและแก้ปัญหาเลือดออกตามไรฟัน
3.สารฟลาโวนอยด์จะช่วยไม่ให้เลือดจับตัวรวมกันเป็นก้อน อีกทั้งยังช่วยป้องกันอาการอักเสบได้ด้วย
4.คอลลาเจนที่ได้จากส้มยังช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอ ทำให้ผิวหนังเกิดความยืดหยุ่น ช่วยสมานแผลหลังการผ่าตัด แผลไฟไหม้ ทำให้แผลหายและเรียบเนียนเร็วยิ่งขึ้น
ก่อนให้ลูกน้อยดื่มน้ำส้มคั้น คุณแม่ควรทำอย่างไร?
หากคุณแม่ต้องการให้ลูกน้อยดื่มน้ำส้มคั้น แนะนำให้ในเด็กที่มีอายุหลังจาก 6 เดือนไปแล้ว เนื่องจากเป็นช่วงที่เราสามารถให้อาหารเสริมกับเขาได้แล้วนั่นเอง แต่ก่อนจะให้น้ำส้มคั้นควรผสมน้ำให้เจือจางเสียก่อน โดยผสมในปริมาณครึ่งต่อครึ่ง เพราะน้ำส้มจะมีความเข้มข้นสูงหากให้ดื่มน้ำส้มเพียวๆ ไปเลย อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบการดูดซึมของลำไส้ได้ค่ะ
หลังจากลูกน้อยเริ่มโตมากขึ้นแล้ว ก็ค่อยๆ ผสมโดยลดปริมาณของน้ำลง จนกระทั่งลูกมีอายุได้ 5 ขวบก็สามารถให้ดื่มน้ำส้มเพียวๆ อย่างเดียวได้แล้วค่ะ ทั้งนี้เนื่องจากน้ำส้มนั้นมีรสชาติที่หวาน การผสมน้ำเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้เจ้าตัวน้อยไม่ติดในรสหวานตั้งแต่เล็กอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในผู้ใหญ่ที่เป็นโรคไตและโรคเบาหวาน ควรกินส้มด้วยความระวัง เพราะส้มนั้นมีโพสแทสเซียมและน้ำตาลสูง แนะนำให้กินเป็นผลส้มที่มีกากใยอาหารด้วยจะดีกว่าการดื่มน้ำส้มคั้นแต่เพียงอย่างเดียว หากทำได้ตามนี้.. การมีสุขภาพดีก็สามารถสร้างได้ง่ายๆ ด้วยการกินส้มแล้วค่ะ
