หลายคนหันมาลดน้ำหนักด้วยการงดทานแป้งแต่หันมาทานโปรตีนกันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งความจริงแล้ว ร่างกายมีความจำเป็นจะต้องได้รับคาร์โบไฮเดรตอยู่เสมอ เพราะอวัยวะทุกส่วนยังต้องใช้พลังงานตลอดเวลานั่นเอง อีกทั้งแหล่งพลังงานที่สำคัญยังควรได้รับจากน้ำตาลกลูโคสซึ่งผ่านการย่อยจากคาร์โบไฮเดรต แต่หากเรางดทานคาร์โบไฮเดรตก็ย่อมทำให้ร่างกายไม่สามารถรับกลูโคสได้อย่างเพียงพอ ส่งผลให้เกิดภาวะกรดซึ่งได้จากการใช้ไขมันมาเป็นแหล่งของพลังงานที่มากเกินไป ทำให้ร่างกายเสียความเป็นสมดุล หากเกิดภาวะนี้นานเข้าก็ย่อมส่งผลเสียกับร่างกายได้
สัดส่วนของการทานคาร์โบไฮเดรตที่เหมาะสม
สำหรับสัดส่วนของคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายควรได้รับอย่างเหมาะสมควรอยู่ที่ร้อยละ 60 – 65 จากพลังงานที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับทั้งหมด หรือประมาณ 200 – 300 กรัมต่อวัน ทั้งนี้ยังควรได้จากคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเป็นหลักด้วย และควรจำกัดปริมาณการทานคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวให้ลดน้อยกว่าร้อยละ 10 จากพลังงานทั้งหมด แนะนำค่ะว่าควรรับประทานน้ำตาลในปริมาณน้อย โดยไม่ควรมากเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน ซึ่งหมายรวมถึงน้ำตาลทั้งหมดที่เราบริโภคจากเครื่องดื่มทุกประเภทและน้ำตาลที่เติมแต่งเพื่อใช้ปรุงรสอาหารพร้อมกันด้วย
อย่างไรก็ตาม เรากินคาร์โบไฮเดรตไม่ได้ทำให้รูปร่างอ้วนแต่อย่างใดเลยค่ะ แต่ความอ้วนหรือน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นนั้นเกิดจากการที่เราทานอาหารที่ให้พลังงานเกินกว่าที่ร่างกายต้องการเข้าไปต่างหาก จึงสะสมกลายเป็นไขมัน ดังนั้นแล้ว ไม่ว่าจะเด็กๆ หรือผู้ใหญ่หากไม่อยากอ้วนล่ะก็ แนะนำให้หันมาทานข้าวหรือแป้งที่ไม่ผ่านการขัดสี พร้อมกับผักและผลไม้เป็นประจำ ออกกำลังกายอยู่เสมอ เท่านี้ก็จะทำให้สุขภาพแข็งแรง ไม่อ้วนและยังช่วยให้เราได้รับคาร์โบไฮเดรตที่มีคุณภาพอีกด้วยค่ะ