ผักสีแดงอย่างมะเขือเทศ เชื่อว่าเป็นผักชนิดหนึ่งที่เด็กๆ หลายคนไม่ชอบรับประทาน เพราะนอกจากรสเปรี้ยวๆ แล้วยังมีเนื้อเละๆ ชวนให้รู้สึกประหลาดเวลาเคี้ยวไม่น้อย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบรรดาเด็กๆ จึงชอบเขี่ยผักชนิดนี้ออกจากจานเป็นประจำ แต่วันนี้เราคงต้องคิดใหม่แล้วนะจ๊ะ เพราะประโยชน์จากมะเขือเทศนั้นมีดีไม่น้อยเลยทีเดียว
กินมะเขือเทศอย่างไรให้ได้สารอาหารครบถ้วน
มะเขือเทศเปี่ยมด้วยสารอาหารหลายชนิด
สารอาหารที่ได้จากมะเขือเทศมีครบถ้วนแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 บี2 วิตามินซี วิตามินเค แคลเซียม เหล็กและฟอสฟอรัส โดยลูกมะเขือเทศผลปานกลางจะมีวิตามินซีมากกว่าส้มโอทั้งลูกถึงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว ในขณะที่วิตามินเอที่ร่างกายต้องการได้รับต่อวันนั้น มะเขือเทศหนึ่งผลให้วิตามินดังกล่าวเพียงพอต่อความต้องการร่างกายเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีสารไลโคปีน (Lycopene) สูง มีเบต้าแคโรทีน แคโรทีนอยด์และกรดอะมิโน เป็นต้น
สรรพคุณจากมะเขือเทศกับการรักษาโรค
การกินอาหารให้เป็นยา ย่อมต้องดีกว่ากินยาเป็นอาหารแน่นอน และมะเขือเทศก็เช่นเดียวกัน เพราะมันมีคุณสมบัติเปรียบดั่งยาจากธรรมชาติซึ่งจะช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด ช่วยรักษาความดันโลหิตและช่วยขับปัสสาวะได้ด้วย
กินมะเขือเทศอย่างไรให้ได้สารอาหารครบถ้วน
กินมะเขือเทศอยางไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด
ปัจจุบันน้องๆ จะเห็นว่ามีน้ำมะเขือเทศกล่องบรรจุขายตามร้านสะดวกซื้อมากมาย แต่หากต้องการรับประทานมะเขือเทศหรือน้ำมะเขือเทศให้ได้ประโยชน์เต็มที่ เราควรคั้นดื่มเองแบบสดๆ จะดีกว่าดื่มแบบขวดหรือกล่องค่ะ และไม่ควรทานมะเขือเทศแบบดิบ เพราะร่างกายอาจได้รับผลเสียมากกว่าจะได้ประโยชน์ อีกทั้งสารไลโคปีนยังเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่าเมื่อเรานำมาปรุงให้สุกเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม การกินมะเขือเทศเป็นประจำหรือกินในปริมาณมากก็ยังไม่มีผลการวิจัยว่าเป็นอันตรายแต่อย่างใด และหากหมั่นกินบ่อยเป็นประจำยิ่งมีแต่จะช่วยต่อต้านโรคมะเร็งได้สูงมากตามเท่านั้น มะเขือเทศมีดีถึงเพียงนี้.. จากนี้ห้ามเมินผักชนิดนี้กันนะคะ
